ข้อห้ามหลังการฉีดโบท็อกซ์

ข้อห้ามหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อรักษาให้โบท็อกซ์อยู่ได้นานขึ้น

1. ห้ามนอนราบเด็ดขาด

หลังฉีดโบท็อกซ์ ควรงดนอนราบประมาณ 3-4 ชั่วโมง และไม่ควรก้มหน้าให้ศีรษะอยู่ระดับต่ำกว่าหัวใจเพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่ใบหน้าเยอะ ส่งผลให้ประสิทธิภาพจากการฉีดโบท็อกซ์ลดลง

2. ไม่ควรประคบเย็น

อีกหนึ่งข้อห้ามที่สำคัญมากๆ หลังการฉีดโบท็อกซ์ คือ ห้ามประคบเย็นเด็ดขาด เพราะความเย็นจะขัดขวางการดูดซึมของเซลล์ประสาท โดยหลังจากฉีดโบท็อกเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อที่ฉีดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด แต่ช่วงหลังฉีดที่ขยับกล้ามเนื้อก็ไม่ควรประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท (เป็นการใช้ความเย็นบล็อครอบๆ ตอนฉีด แล้วขยับกล้ามเนื้อหลังฉีดเพื่อดึงโบท็อกเข้าเซลล์

นอกจากนี้ ควรงดการนวดหรือถูบริเวณที่ทำการฉีดโบท็อกซ์ เป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมง – 3 วันหลังฉีดด้วย 

3. หลีกเลี่ยงความร้อนต่างๆ

ความร้อนเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกซ์สลายเร็ว ดังนั้น หลังการฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรก ไม่ว่าจะเป็นการอบซาวด์น่า , การตากแดด,การออกกำลังกายหนักๆ, โยคะร้อน และการทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด

4. หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด

ในระยะเวลา 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดโบท็อกซ์ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิด เช่น

– อาหารรสเผ็ดมากๆ, อาหารรสจัดที่มีผลทำให้แสบร้อนหน้าแดง

– อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง และผลไม้ดอง เป็นต้น เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัว

Credit ภาพจากเวป matichon.co.th

– งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ เป็นต้น เพราะอาจทำให้เส้นเลือดขยายตัวได้

– หมูกะทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อนๆ

5. งดสูบบุหรี่

หลังฉีดโบท็อกซ์สาวๆ ควรงดสูบบุหรี่เป็นระยะเวลา 7 – 14 วัน เนื่องจากสารต่างๆ ในบุหรี่อาจทำให้หลอดเลือดขยายตัว ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ได้

6. หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้า

งดนวดหน้า ขัดหน้า หลีกเลี่ยงการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์ หรือกระทำอันใดที่จะมีผลต่อบริเวณที่รักษา เช่น สวมหมวก สวมหมวกกันน็อค เป็นต้น หลังการรักษาด้วยโบท็อกซ์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ 

 หากมีคอร์สทำหน้า นวดหน้า หรือคอร์สเลเซอร์ที่ต้องทำเป็นประจำ ควรถือโอกาสทำมาก่อนฉีดโบท็อกซ์เพราะหลังฉีดจะต้องงดนาน 2 อาทิตย์ จึงจะทำต่อได้

7. งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

เช่น กรดวิตามินเอ AHA วิตามินซีเป็นเวลา 24 ชั่วโมง หลังการรักษา

สามารถล้างหน้าได้ หลังการรักษา 4 ชั่วโมง 

สามารถทาครีมหรือใช้เครื่องสำอางได้แต่ต้องทาด้วยความนุ่มนวลและหลีกเลี่ยงการกดถูแรงๆ

ข้อห้ามการฉีดโบท็อกซ์ ที่ไม่สามารถฉีดได้ (Contraindications)

1. คนที่มีปัญหาเรื่อง โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง อาจจะอันตรายถึงชีวิต

2. คนที่มีปัญหาเรื่อง กล้ามเนื้อในการกลืน

3. คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น – amyotrophic lateral sclerosis (ALS) – Lou Gehrig’s disease – myasthenia gravis – Lambert-Eaton syndrome

4. มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อกซ์

5. มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

ข้อห้ามการฉีดโบท็อกซ์ ที่ควรระวัง (Precautions)

สามารถฉีดได้แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อน

1. มีประวัติเคยแพ้ส่วนผสมของโบท็อกซ์

2. โบท็อกซ์ประกอบด้วย : Botulinum toxin type A, Human albumin, Sodium chloride

3. ในคนที่อายุต่ำกว่า 18 ปี ยังไม่มีการศึกษาที่รับรองความปลอดภัยของการฉีดโบท็อกซ์

4. สำหรับคนที่อายุ 12-18 ปี มีการศึกษารับรองความปลอดภัยในบางกรณีเท่านั้น (ควรปรึกษาแพทย์ก่อน)

ข้อมูลอื่น ๆ ที่คนไข้ควรแจ้งแพทย์

1. เคยมีผลข้างเคียงจากการฉีดโบท็อกซ์ครั้งก่อน ๆ

2. มีภาวะเลือดหยุดยาก เขียวช้ำง่าย

3. มีกำหนดการที่จะผ่าตัด

4. เคยผ่าตัดที่ใบหน้ามาก่อน

5. มีภาวะหนังตาตกอยู่

6. หัตถการต่าง ๆ ที่เคยทำบนใบหน้ามาก่อน เช่น โบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ร้อยไหม เมโส เลเซอร์ต่าง ๆ

7. อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษายืนยันว่าโบท็อกซ์เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่

8. ให้นมบุตร ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการศึกษายืนยันว่าโบท็อกซ์ สามารถผ่านไปทางน้ำนมได้หรือไม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาที่ปรึกษาของเราได้เลยค่ะ

เอกสารอ้างอิง

https://www.allergan.com/miscellaneous-pages/allergan-pdf-files/botox_med_guide https://www.drugs.com/drug-interactions/onabotulinumtoxina,botox-index.html

1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://lin.ee/fniHFH5