top of page
หน้าปก oppame (2).png
  • รูปภาพนักเขียนOppa Me

เคสคางสั้น ต้องผ่าตัดแบบไหน จึงจะเหมาะที่สุด

หลายๆ คนคงมีปัญหาคางสั้น นอกจากจะทำให้ใบหน้าไม่ได้สัดส่วนที่สวยงามจนเป็นปัญหากวนใจ หลายๆ คนจึงมองหาทางเลือกอย่างการทำศัลยกรรม แล้วการทำศัลยกรรมแบบไหนล่ะ จึงจะเหมาะกับเคสที่คางสั้นมากที่สุด BEAUTIFLY จะมาเล่าให้ฟังค่ะ


ก่อนอื่นเรามานิยามคำว่า “คางสั้น” กัน ว่าคางสั้นหมายถึงอะไรกันนะ?!

ถ้าพูดถึงคางสั้น คือ คางค่อนข้างสั้นกว่ามาตรฐาน หรือ ตำแหน่งคางถอยเข้าไปข้างใน ซึ่งการจำแนกนั้นเกี่ยวข้องกับการสบฟัน ในกรณีที่ฟันสบกันปกติ ฟันบนจะครอบฟันล่างนิดหน่อย ในกรณีที่ไม่ปกติ คนไข้บางคนจะมีปัญหากระดูกคางพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ฟันบนจะครอบฟันล่างค่อนข้างเยอะ การจำแนกนั้น จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. คนที่คางสั้นที่มีปัญหาการสบฟัน 2. คนคางสั้นที่ไม่มีปัญหาการสบฟัน

การแก้ไขปัญหา

ทางเลือกแรก วิธีการแก้ไขที่ง่ายที่สุดจะแนะนำสำหรับคนที่มีคางสั้นไม่มากคือการ “ฉีดฟิลเลอร์” เป็นทางเลือกที่สะดวกที่สุด แต่มีข้อเสียคือ ต้องคอยฉีดเรื่อยๆ ทางเลือกที่ 2 สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขแบบระยะยาวมากขึ้น แนะนำเป็นการ “ฉีดไขมัน” ก็ได้เช่นกัน ทางเลือกที่ 3 ในเคสที่คางสั้นมาก แม้การฉีดไขมันไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ แนะนำเป็นวัสดุเสริมเทียม หรือ “ซิลิโคน” เพื่อเสริมใบหน้าให้ดูมีมิติขึ้น ทางเลือกที่ 4 สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้มีวัสดุแปลกปลอม และต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างสมบูรณ์แบบในครั้งเดียว ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุมากที่สุด จะเป็นการเลื่อนคางไปข้างหน้าเป็นวิธีแก้ไขด้วยการศัลยกรรม ซึ่งการแก้ไขก็มีวิธีที่หลากหลาย

“ซึ่งไม่มีอะไรที่ไม่มีข้อเสีย สำคัญที่การเลือกวิธีแก้ไขที่เหมาะสมกับปัญหา เพราะฉะนั้นแล้ว คำวินิจฉัยจากแพทย์ผู้มากประสบการณ์จึงสำคัญ”

ซึ่งคุณหมอโอซางยอน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบาโนบากิ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมโครงหน้าและขากรรไกร ผู้มากประสบการณ์กว่า 20 ปี ให้ความเห็นว่า “การศัลยกรรมคางเป็นการแก้ไขที่ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” การปรับตำแหน่งคางที่เหมาะสมเป็นการแก้ไขที่ได้ผลลัพธ์สมบูรณ์ที่สุด แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้นไม่มาก การฉีดฟิลเลอร์ก็สาม