เมื่อขาของเหล่าไอดอลมีจุดดำในตำแหน่งเดียวกัน ชาวเน็ตจึงฟันธงว่า ดูดไขมัน มาชัวร์ แต่ก็มีเสียงแตกเพราะอีกทีมก็บอกว่านั่นมันรอยเข็มคาร์บ็อกซี่ อีกทีมก็บอกว่านี่มันฝีมือซาแซง แล้วข้อสรุปมันคืออะไรกันล่ะ ไปค้นหาคำตอบกัน
Fast Fact
การดูดไขมันเป็นการลดสัดส่วนและไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย ไม่ใช่วิธีการลดความอ้วน คำแนะนำของแพทย์แนะนำผู้ที่จะดูดไขมันควรมีค่า BMI ในเกณฑ์ปกติ
โดยเครื่องมือที่ใช้ดูดไขมันในปัจจุบันมึอยู่ดังนี้
Micro-Aire PAL : Power Assisted Liposuction เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับการดูดไขมันยุคปัจจุบัน ใช้เทคโนโลยีการสั่นของไมโครแอร์เพื่อให้ปริมาณการดูดไขมัน ไหลออกมาได้เร็วมากขึ้น โดยเฉพาะบริเวณที่มีพังผืดดูดยาก เช่น กลางหลัง หรือบริเวณที่เคยดูดไขมันมาก่อน เพิ่มประสิทธิภาพการดูดไขมันได้มากยิ่งกว่าเดิม ฟกช้ำน้อยกว่าการดูดไขมันแบบปกติ
Body Jet /Water Jet Assisted Liposuction (WAL) ใช้พลังงานน้ำที่อ่อนโยนในการแยกไขมันพร้อมกำจัดออกจากร่างกาย โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อและเส้นเลือดบริเวณรอบข้าง ผ่านทุกขั้นตอนมีประสิทธิภาพ สะดวก และปลอดภัย พร้อมผลลัพธ์ที่มีความเสี่ยงต่ำและการฟื้นตัวที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการใช้ปริมาณ Tu mescent ที่น้อยกว่าซึ่งช่วยภาวะบวมน้ำของร่างกายแตกต่างจากการดูดไขมันแบบดั้งเดิม
Vaser :การใช้พลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ (Ultrasound) เข้าไปสลายไขมันทำให้ก้อนไขมันแตกตัวออกและสลายกลายเป็นของเหลวใต้ผิวหนัง จากนั้นทำการดูดออกอย่างนุ่มนวล โดยไม่ทำความเสียหายให้กับเนื้อเยื่อโดยรอบ ช่วยให้ฟื้นตัวเร็วหลังการรักษา
Bodytite : RFAL – Radio-Frequency Assisted Lipo Tightening ใช้คลื่น Radio frequency หรือคลื่นความถี่สูง เพื่อทำให้ไขมันแตกตัว และนอกจากทำให้ไขมันแตกตัวแล้วยังสามารถทำให้ผิวหนังด้านบนที่ทำการดูดไปกระชับได้อีกด้วย (lipo tightening)
J-Plasma ผสมผสานพลังงานอันทรงประสิทธิภาพระหว่างพลาสมาฮีเลียม และพลังงานคลื่นความถี่วิทยุ (RF) พลังงานจะถูกปล่อยในจุดที่ต้องการ โดยก่อให้เกิดความร้อนขึ้นที่อุณหภูมิ 85 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับที่สามารถทำให้เส้นใยที่ทำหน้าที่ยึดผิว (Fibroseptal Network) เนื้อเยื่อต่าง ๆ รวมไปถึงเนื้อเยื่อที่เป็นโพรงช่องว่างอยู่จะหดตัวอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผิวหนังกระชับขึ้นทันที
Comentarios