ในฤดูร้อนที่แสงแดดทั้งร้อนและรุนแรง ทำให้ต้องใส่ใจเรื่องรังสียูวีเป็นอย่างมาก รังสียูวีจะการกระตุ้นผิวให้เกิดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ซึ่งจะทำให้ผิวเกิดจุดด่างดำขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นหากผิวของเราได้รับรังสียูวีเป็นระยะเวลานานก็จะทำเซลล์ผิวที่ตายแล้วเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้น และสามารถทำให้ผิวแก่เร็วยิ่งขึ้น
เพื่อที่จะปกป้องผิวเราจึงจำเป็นที่จะต้องทาครีมกันแดด เรามาทราบถึงวิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้องกัน!

✦ STEP 1 เลือกครีมกันแดดให้เหมาะสม
ก่อนที่จะทาครีมกันแดด การเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั้นก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ
ค่า PA และ SPF ในครีมกันแดดจะเป็นตัวบ่งชี้ว่าครีมกันแดดนั้นๆสามารถป้องกัน รังสียูวีเอ และ รังสียูวีบีได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ว่าการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า PA และ SPF สูงๆจะดีเสมอไป เพราะยิ่งค่าเหล่านั้นสูงมากเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ทำครีมกันแดดนั้นๆมีส่วนประกอบที่ทำให้เกิดการะคายเคืองผิวมากยิ่งขึ้น
▸ ผู้ที่ใช้ชีวิตประจำวันในภายในอาคารเป็นส่วนมากเหมาะกับ ค่า SPF 10+/-, PA+
▸ ผู้ที่ทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ไม่หนักมากเหมาะกับค่า SPF 10~30, PA++
▸ ผู้ที่เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นระยะเวลานานๆ เหมาะกับค่า SPF30~50, PA+++

✦ STEP 2 ทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอก 30 นาที, ทาซ้ำทุก 2~3 ชั่วโมง
การทาครีมกันแดด 30 นาทีก่อนออกไปข้างนอกจะทำให้ครีมกันแดดเกิดประสิทธิ์ภาพที่ดี เพราะครีมกันแดดจะไม่ออกฤิทธิ์ทันทีที่ทา และเนื่องจากเหงื่อและความมันบนหน้าอาจทำให้ครีมกันแดดถูกล้างหลุดออกจากผิวได้ การทาครีมกันแดดซ้ำทุกๆ 2~3 ชั่วโมง จึงเป็นเรื่องที่ดี

✦ STEP 3 ใช้ครีมกันแดดในปริมาณเท่าเหรียญสิบ
ควรบีบครีมกันแดดใช้ในปริมาณขนาดเท่าเหรียญสิบในการทาบนใบหน้าจึงจะสามารถเห็นผลลัพธ์ที่ได้ และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า การใช้ครีมกันแดดในหนึ่งครั้ง 900 มก. สำหรับผู้ชายและ 800มก. สำหรับผู้หญิง จะทำให้เกิดประสิทธิภาพที่ดี ดังนั้นการใช้ครัมกันแดดในปริมาณเท่าเหรียญสิบจึงทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด แม้การกะใช้ในปริมาณให้เท่าเหรียญสิบอาจจะเป็นเรื่องยากในการทำจริง แต่เราควรบีบใช้ทาในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพดีที่สุด
