คางเป็นองค์ประกอบสำคัญของใบหน้าที่ได้รูปเพราะถือเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของใบหน้าโดยรวม คางที่ยาวไปอาจทำให้ใบหน้าแก่กว่าวัยหรือดูแข็ง แต่ถ้าหากคางสั้นไปอาจทำให้มองไม่เห็นเส้นแบ่งระหว่างคอและใบหน้าได้เช่นกัน อีกทั้งคางที่เบี้ยวหรือกว้างเกินไปอาจทำให้ดูใบหน้าไม่ละมุน Golden Ratio หรือสัดส่วนใบหน้าทองคำคือสัดส่วนใบหน้าในอุดมคติ นั่นคือสัดส่วนของใบหน้าตั้งแต่หน้าผาก หว่างคิ้ว ใต้จมูก ปลายคางหากวัดแล้วได้สัดส่วนเป็น1 : 1 : 0.8
ทั่วไปแล้วหากนึกถึงการศัลยกรรมคาง ส่วนมากจะมองที่แค่ความยาวของคาง หรือการทำหน้าวีไลน์ ง่ายๆคือ มองแค่ไลน์คางเพียงแค่อย่างเดียว แต่ทว่าการวิเคราะห์ใบหน้าทุกส่วนอย่างมีมิติ รวมถึงภาพรวมของใบหน้าก็ถือว่าเป็นจุดสำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากหน้าผาก จมูก และปลายคางมีความสมดุลกัน จะยิ่งทำให้มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้หากคางอยู่ในระดับที่ได้สัดส่วนจะทำให้เห็นบริเวณช่องว่างระหว่างคอและใบหน้าที่ชัดขึ้น และทำให้ใบหน้าดูคมชัดอีกด้วย ดังนั้นการศัลยกรรมจึงต้องคำนึงความยาว รูปร่าง รวมไปถึงมุมหน้าในหลากหลายมิตินั่นเอง
ศัลยกรรมคางทำได้ 2 วิธีคือ
การเสริมซิลิโคน
กรณีที่คนไข้ไม่สะดวกที่จะเหลากระดูกอ่อนหรือแพทย์วินิจฉัยว่าคนไข้ไม่เหมาะที่จะเหลากระดูกอ่อน การเสริมซิลิโคนคางก็เป็นอีกวิธีที่ดีเช่นกัน การเสริมซิลิโคนคางคือ การใส่ซิลิโคน หรือกอร์เท็กซ์เข้าไปเพื่อให้คางได้รูปยิ่งขึ้น แต่ว่าการเสริมซิลิโคนไม่สามารถทำได้กับคนไข้ที่คางยื่น หรือยาวมากเกินไป ส่วนคนไข้ที่คางสั้น หรือคางงุ้มเข้าไป การเสริมซิลิโคนที่คางก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คางดูมีมิติยิ่งขึ้น
ข้อดีของการเสริมซิลิโคนที่คางคือ อาการปวดน้อยกว่าการผ่าตัดที่กระดูกอ่อน แค่เพียงเสริมซิลิโคนที่เข้ากับกระดูกคางเข้าไป สามารถย่นระเวลาการผ่าตัด รวมทั้งฟื้นตัวได้เร็ว อีกทั้งเวลาที่ใส่ซิลิโคน ไป จะทำการกรีดบริเวณด้านในปาก ดังนั้นหมดห่วงเรื่องแผลเป็นขนาดใหญ่ รวมทั้งสามารถตกแต่งซิลิโคนให้เข้ากับรูปคางตามที่ต้องการตรงใจคนไข้อีกด้วย