top of page
หน้าปก oppame (2).png
รูปภาพนักเขียนOppa Me

รีวิวเคสแก้!-ปรับโครงหน้ารอบสุดท้ายต้องเอาให้อยู่! @banobagi

#รีวิวเคสแก้ปรับโครงหน้า – ที่โรงพยาบาลบาโนบากิ พร้อมเสิร์ฟรีวิวเคสศัลยกรรมเกาหลีแบบรัวๆ ใครที่มีปัญหารูปหน้า หรือเคยผ่านการศัลยกรรมมาแล้วแต่อยากแก้ไขซ้ำต้องแวะดูรีวิวนี้เลย!

เป็นที่รู้ดีว่าการทำศัลยกรรมปรับแก้นั้นมักจะยากและซับซ้อนกว่าการทำศัลยกรรมครั้งแรกเสมอ เพราะเป็นเช่นนี้ การทำศัลยกรรมแก้เคสนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องใช้ทีมศัลยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ เพราะคงไม่มีใครอยากจะเจ็บซ้ำสอง ซ้ำสามกันอยู่บ่อยๆ เช่นเดียวกันกับเคสนี้ ที่ตัวเธอเองได้มีการไปทำศัลยกรรมปรับโครงหน้ากับโรงพยาบาลอื่นมาก่อนแล้วเป็นเวลาสองปี ซึ่งผลที่ได้นั้นกลับเป็นที่ไม่น่าพอใจมากนัก จนทำให้เธอคิดที่จะตัดสินใจมาทำศัลยกรรมแก้ไขปรับโครงหน้าที่โรงพยาบาลบาโนบากิ


แต่เดิมสาเหตุที่ทำให้เธอตัดสินใจทำศัลยกรรมในครั้งแรกเป็นเพราะ เธอมักจะโดนเพื่อนล้ออยู่บ่อยๆ ว่าเป็นคนมีแก้มเยอะ แก้มป่องหน้าอ้วน จนทำให้เธอสูญเสียความมั่นใจในตนเอง และต้องไว้ทรงผมที่ช่วยปิดกรอบหน้ามาโดยตลอด เพราะไม่อยากให้คนอื่นเห็นใบหน้าเต็มที่แท้จริง หรือบางครั้งถึงขั้นเลือกที่จะสวมใส่แมสเวลาออกไปข้างนอก แม้ไม่มีเหตุจำเป็นที่จะต้องสวมใส่

แต่เมื่อเธอโตขึ้น เธอก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการศัลยกรรม แล้วจึงทราบว่าสาเหตุที่ใบหน้าของเธอไม่ได้เป็นแบบที่เธอชอบนั้น ไม่ได้เกิดจากการที่เธอมีแก้มใหญ่ แต่เป็นเพราะโหนก และกรามที่มีรูปทรงค่อนข้างเหลี่ยม จึงส่งผลให้ใบหน้าของเธอดูใหญ่ เธอจึงตัดสินใจเข้าผ่าตัดศัลยกรรมกระดูก ปรับโครงหน้าที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นกลับไม่คุ้มค่ากับความทรมานที่เธอยอมแลก เพราะแทนที่เธอจะได้ใบหน้าที่เรียวสวย และได้วีไลน์ที่เหมาะกับเธอ เธอกลับได้ใบหน้าที่ดูแล้วคล้ายเดิม แถมช่วงโหนกแก้มและกรามก็ยังดูเป็นคลื่นไม่สม่ำเสมอกัน แทนที่หลังผ่าตัดเธอจะได้ใบหน้าที่เธอต้องการกลับจะต้องแก้ไขมันต่อไปเรื่อยๆ ด้วยการฉีดโบท็อกซ์ และฟิลเลอร์ ซ้ำอยู่เสมอ

นอกจากนั้นก็ยังมีในส่วนของจมูก และดวงตาเดิมที่เธอไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะหากมองโดยรวมทรงจมูกจะดูทู่ ตาก็ดูเป็นคนที่เหมือนง่วงนอนตลอดเวลาหากไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์ สรุปก็คือ เธอนั้นไม่พอใจกับใบหน้าเธอแบบสุดๆ จึงต้องการจะทำศัลยกรรมแก้ไข บวกกับที่เธอมีความใฝ่ฝันว่าอยากจะถ่ายรูปกล้องสดแล้วลงได้เลยไม่ต้องมานั่งแต่งรูป หรือถ่ายผ่านแอพแบบที่ปัจจุบันทำอยู่! (อันนี้หลายคนก็เป็นใช่ไหม ><)

เธอจึงตัดสินใจเลือกทำศัลยกรรมแก้ไขใบหน้าที่โรงพยาบาลบาโนบากิเป็นครั้งที่สอง และหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย บวกกับการทำศัลยกรรมจมูก และตา พร้อมกันในครั้งเดียวเลย


  1. วันผ่าตัด

ก่อนเข้ารับการผ่าตัดมาถึงโรงพยาบาลก็ต้องทำการเอกซเรย์ และ CT Scan ก่อน พร้อมทั้งปรึกษากับคุณหมอเกี่ยวกับแผนการ และทิศทางในการผ่าตัดศัลยกรรมอย่างละเอียด คุณหมอได้อธิบายแผนการผ่าตัดศัลยกรรมปรับโครงหน้า ศัลยกรรมตา และจมูกอละเอียดมาก จนทำให้เธอรู้สึกสบายใจ โดยขั้นตอนการทำของเธอนั้น จะเริ่มจากการทำตาก่อน ต่อด้วยการผ่าตัดปรับโครงหน้า แล้วค่อยปิดท้ายด้วยการทำจมูก

การผ่าตัดเป็นไปได้อย่างราบรื่น และเรียบร้อยดี

ช่วงหลังการผ่าตัดในช่วงแรก จะมีอาการบวม และปวดในบริเวณที่ทำศัลยกรรม ทานอาหารค่อนข้างที่จะลำบากเพราะเจ็บคอ บวกกับปากชาตลอดจึงทานได้แต่ของเหลว แต่เมื่อเข้าวันที่ 4-5 อาการบวม และปวดก็ลดลง


  1. หลังผ่าตัดครบ 1 สัปดาห์

แม้จะยังมีอาการปวดที่หน้าอยู่บ้าง แต่ก็ลดลงมากจากวันแรกๆ แถมเริ่มแสดงสีหน้าได้บ้างแล้ว วันต่อมาก็ได้เข้าไปถอดเฝือกจมูก พร้อมกับตัดไหมตรงหน้าหู และตาที่โรงพยาบาล ช่วงนี้ไหมในปาก และหลังหูยังไม่ได้ตัดออก และหน้าก็ยังมีอาการบวม จึงต้องพยายามกินน้ำฟักทองเยอะๆ และใช้วิธีประคบช่วย


  1. หลังผ่าตัดครบ 2 สัปดาห์

อาการบวมใหญ่ๆที่เห็นได้ชัดได้ลดลงไปแล้ว พอเข้าวันที่9 ก็เริ่มใช้ผ้ารัดหน้า แอบรู้สึกอึดอัดช่วงคางมาก แต่ก็ต้องอดทนเพื่อความสวย ส่วนรอยช้ำต่างๆเริ่มจางลงและใกล้จะหมดแล้ว และแม้โดยรวมช่วงนี้จะยังมีอาการบวมอยู่ แต่ก็มีสิ่งที่ถูกใจอย่างเห็นได้ชัดคือจมูกใหม่ที่ดูเปนสันแบบที่ต้องการเลย!


  1. หลังผ่าตัดครบ 3 สัปดาห์

ใบหน้ายุบบวมลงเยอะมากจนคนรอบข้างทัก

แถมยังชมว่าสวย และดูเป็นธรรมชาติมากไม่เหมือนกับคนที่ไปทำศัลยกรรมมาเลย ช่วงนี้เป็นช่วงที่ตัดไหมออกหมดแล้ว และไปเอ็กซเรย์ ทำ CT Scan อีกรอบ คุณหมอแจ้งว่าการผ่าตัดเป็นไปได้ดีมาก แต่ยังต้องหมั่นประคบเย็น ใส่ผ้ารัดหน้า อย่ากินของเค็ม และต้องออกกำลังกาย ส่วนช่วงตาอาจจะยังดูไม่ค่อยเท่ากันแต่หากยุบบวมหมดแล้วก็จะดูสวยเป็นธรรมชาติแน่นอน


  1. หลังผ่าตัดครบ 4 สัปดาห์

อาการบวมลดลงเรื่อยๆ ตาเริ่มเห็นความสวยหวานอย่างชัดเจน ส่วนใบหน้ายังเป็นช่วงที่ต้องขยันใส่ผ้ารัดหน้าอยู่บ่อยๆ แต่โดยรวมใบหน้าก็ดูสวยเรียวขึ้นมาก แบบแม้แต่งหน้าบางๆ ก็ยังรู้สึกสวยปังไม่ไหว และช่วงนี้เริ่มเคี้ยวอาหารอื่นได้บ้างแล้ว และต้องค่อยค่อยฝึกอ้าปากตามที่โรงพยาบาลแนะนำ เมื่อฝึกทำเรื่อยๆอาการเจ็บก็จะลดลง เหลือเพียงความรู้สึกตึงบริเวณกรามเท่านั้น


  1. หลังการผ่าตัดครบ 2 เดือน

บางช่วงอาจจะยังมีอาการปวดบ้างเล็กน้อย แต่ก็จะหายไปเอง ใบหน้าเริ่มยุบลงมากเรื่อยๆ รู้สึกชอบหน้าตัวเองสุดๆ คนรอบข้างก็ชมไม่หยุดเลยว่าสวยขึ้น!

  1. หลังการผ่าตัดครบ 3 เดือน

รู้สึกว่าประสาทสัมผัสทั่วใบหน้า จะกลับมาครบเป็นปกติแล้ว 100% เท่าที่ดูตอนนี้เหมือนตา และจมูกจะดูเข้าที่แล้ว และดูเป็นธรรมชาติมากๆ หลังจากครบสามเดือนก็เริ่มไม่มีอาการเจ็บ หรือปวดแล้วสามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติเพียงแค่ต้องเลี่ยงการทานอาหารที่เหนียวเกินไปเท่านั้น ใบหน้า และบริเวณที่ทำศัลยกรรมก็เริ่มเข้าที่อย่างเห็นได้ชัดมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะหน้าที่ดูเรียวขึ้นมากอย่างเห็นได้ชัด แถมดวงตาก็ดูกลมโตสดใสขึ้นเยอะแลดูเป็นธรรมชาติสุดๆ


ซึ่งหากใครที่สนใจจะทำศัลยกรรม กระทู้นี้ขอแนะนำที่โรงพยาบาลบาโนบากิเลย เพราะเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมที่โด่งดัง และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน แถมยังรวบรวมแพทย์มากฝีมือที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านไว้เยอะมาก ยกตัวอย่างศัลยแพทย์ คุณหมอ “โอชังฮยอน” ที่เป็นศัลยแพทย์ตกแต่งที่โรงพยาบาลบาโนบากิ

ดีกรีแพทย์จากโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโซล ประเทศเกาหลี ฝีมือและความเชี่ยวชาญนั้นเรียกได้ว่าไปหาดูได้ในรายการ Let Me in เลย ปังขนาดไหนลองคิดดู!

และ ศัลยแพทย์ที่เก่ง และเชี่ยวชาญแบบนี้ก็ไม่ได้มีเพียงแค่คุณหมอโอชังฮยอน เท่านั้น เพราะที่โรงพยาบาลบาโนบากิยังรวบรวมทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละด้านไว้อีกมากมาย เรียกได้ว่าหากคุณมีความต้องการที่จะทำศัลยกรรมในส่วนไหนก็แนะนำให้ไปปรึกษาไว้ก่อนได้เลย เพราะจะได้สวยสมใจทุกประการแน่นอน ซึ่งทางเราได้แปะพิกัดลิ้งค์ช่องทางการติดต่อไว้ให้ด้านล่างแล้ว

RYN Plastic Surgery บริการให้คำปรึกษาด้านศัลยกรรมเกาหลี

ขอบคุณบทความรีวิวดีๆ : https://banobagithai.blogspot.com/2021/06/tt-14.html

#banobagi #ศัลยกรรม #ศัลยกรรมโครงหน้า #ศัลยกรรมจมูก #เสริมจมูก #ปรับรูปหน้า #ทำจมูก #ศัลยกรรมเกาหลี #RYN 

  1. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมเกาหลีได้ที่ LINE Official: https://line.me/ti/p/dcIDBbqT8T

  2. เยี่ยมชมหน้าโปรไฟล์ ผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษาศัลยกรรมเกาหลีได้ที่นี่: https://oppame.co.th/ryn-plastic-surgery/consultant/ryn-plastic-surgery/

ดู 2 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments

Rated 0 out of 5 stars.