สวัสดีค่ะ ^^
ก่อนอื่นขอบอกเหตุผลที่ตัดสินใจทำศัลยกรรมตา ทำจมูก ปรับโครงหน้า ก็คือ…
1. ตาสองชั้นมีหลายชั้นมากกก พับซ้อนกันไปหมด ชั้นตาข้างขวายังไม่เท่าไหร่ แต่ชั้นตาซ้ายบางวันนับได้5ชั้นก็มี ต้องทนแต่งตาเหี่ยวๆ ถมอายไลเนอร์ไม่เท่ากันทุกวัน อีกอย่างคือเวลาถ่ายรูปบางทีเพื่อนชอบทักว่าอย่าทำตาง่วงนอน นี่ก็อยากจะบอกว่าเบิกตาสุดแล้ว แต่มันได้เท่านี้ เหนื่อยแก เวลาถ่ายรูปต้องคอยเกร็งตาให้โตๆ
2. จมูกมีฮัมพ์ค่ะ ปลายจมูกก็ดูกลมๆ มองหน้าตรงจมูกดูยาวๆบางๆ อยากเสริมจมูกให้สูงขึ้นหน่อยเผื่อหน้าตาจะดูมีมิติกับเค้าบ้าง
3. ในส่วนของโครงหน้านั้น…. หน้าบานแก ละโหนกแก้มใหญ่มาก ในความใหญ่ก็มีความแบนๆคู่ไปด้วย โบทอกซ์กรามก็ต้องหมั่นฉีดบ่อยๆ นี่จะมีมุมเซลฟี่คือต้องหันขวา45องศาเท่านั้น!! มุมอื่นคือไม่รอด หลังจากนี้ก็หวังว่าจะรอดทุกมุม *กราบหมอ*
วันผ่าตัด
มาละ วันเกิดใหม่ ฮ่าๆๆๆ อดอาหารอดน้ำทุกอย่างมา8ชั่วโมงก่อนเวลาผ่านะคะ อาบน้ำล้างหน้าสระผมมาให้เรียบร้อย อย่าลืมล้างเล็บมือเล็บเท้ามาด้วยนะคะ
วันนี้เริ่มทำตาก่อน เป็นการปรับกล้ามเนื้อตาแบบกรีดบางส่วน ทำตาใช้ยานอนหลับค่ะ เพราะในห้องผ่าคุณหมอต้องคอยเช็คชั้นตา ให้ลืมตาหลับตา มองปลายนิ้วคุณหมอ มองบนมองล่างว่าไป ที่จริงก็แอบกลัวเพราะมันไม่หลับสนิท มันรู้สึกตัว แต่เอาเข้าจริง ไม่เจ็บเลยยยย คุณหมอฉีดยาชาที่เปลือกตาตอนไหนก็ไม่รู้ตัว เหมือนหลับไปวูบนึง 😂😂 อาจจะมีตึงๆหน่อย ตอนคุณหมอดึงๆเย็บกล้ามเนื้อตา แต่ก็โอเคค่า
ทำตาเสร็จแล้วก็ย้ายไปอีกห้องผ่านึง เพราะปรับโครงหน้าเปลี่ยนไปใช้ยาสลบ เดี๋ยวจะผ่าโครงหน้าและต่อด้วยจมูกเลย โครงหน้าปรับสามจุดคือโหนกแก้ม+กราม+คาง ส่วนจมูกก็เป็นจมูกพื้นฐานของเกาหลีค่ะ คือใส่ซิลิโคน ใช้กระดูกอ่อนผนังกั้นจมูก และกระดูกอ่อนหลังหู + ลดปีกนิสสสนึง แต่คุณหมอบอกว่าจมูกเราทำสูงมากไม่ได้จ้า เพราะผิวหนังเราบาง เดี๋ยวหลังจากนี้จิมีปัญหา
เอาล่ะ คุณหมอวิสัญญีเดินมาครอบหน้ากากอ๊อกซิเจน บอกให้สูดหายใจลึกๆ …. ลืมตาอีกที อยู่ห้องพักฟื้น ผ่าเสร็จละ!!!
ผ่าตัดเสร็จแล้ว โชคดีมาก เราไม่ปวดแผลเลย สาบานว่าถอนฟันคุดเจ็บกว่า! นานๆทีมันจะปวดตุ้บๆตรงช่วงกรามนิดนึง แล้วก็หายไป ส่วนตาก็จะหนักๆหน่อย แต่จมูกไม่รู้สึกอะไรเลย หายใจเข้าออกโล่งมากกกก
แต่อาการแสบคอจะหนักหน่อย ;-; กลืนน้ำลายยาก ใช้ยาสลบก็ต้องอดทนจ้า
。◕‿◕。
วันแรกหลังผ่า
ตื่นเช้ามาคุณพยาบาลเข้ามาทำแผลให้ แกะผ้าห่อสาลี่ออก เลยรู้ว่าไม่ได้ใช้กระดูกอ่อนหลังหูจ้า 😂😂😂 จังหวะถอดสายเดรนนี่ก็เสียวไส้ ปวดๆนิดๆ ก่อนคุณพยาบาลเข้ามาถอดสายเดรน ต้องกินนมตุนไว้ก่อนนะคะ เพราะหลังจากถอดสายแล้ว จะทานนมไม่ได้อีก6ชมจ้า (เค้าบอกว่ากระพุ้งแก้มเป็นรู ถ้ากินอะไรมันจะไหลเข้าไปในร่างกาย😂) แต่ระหว่างนั้นทานน้ำกับบ้วนปากได้ปกติค่ะ
วันนี้ต้องเริ่มกินยา ล้างแผลเองแล้วค่ะ ประคบเย็นและเดินวนๆไป วันนี้เริ่มมีน้ำมูก เลยหายใจทางปาก ลำบากหน่อย ;-;
゚・✿.。.:* *.:。✿*゚
วันที่สองหลังผ่า
ตื่นเช้ามาเช็ดหน้าเช็ดตา ล้างแผลหนึ่งรอบ ดื่มนม กินยา ประคบเย็นแล้วก็เดินวนไปวนมาในบ้านเหมือนเดิม
ตอนบ่ายมีภารกิจ!! วันนี้จะได้แกะเทปใต้คางเองล้าววว แกคือเทปติดแน่นเวอร์ คุณพยาบาลบอกว่าพยายามเอาน้ำลูบๆๆให้เทปมันแฉะก่อนจะได้แกะง่ายๆ นี่ก็พยายาม ค่อยๆแซะ(?)ทีละเล็กละน้อย ข้างๆไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ตรงหน้าคางเหมือนจะเจ็บกว่าที่อื่นนิดนึง ให้ความรู้สึกเหมือนตอนฝึกใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรก คือทำอะไรอ่ะ ทำแค่เนี้ยยย แต่ส่องกระจกเป็นชั่วโมง 😂😂😂
แกะเทปเสร็จแล้วมันก็ช่วยให้หายตึงๆคางหน่อยนึง
และวันนี้ค่ะ น้ำมูกบุก! ก็พอจะรู้มาว่าถ้าใช้กระดูกอ่อนผนังกั้นโพรงจมูกมันจะทำให้มีน้ำมูกเยอะ แต่พอมาเจอจริงๆ เออมันก็ยากอ่ะ ถ้าเป็นเมื่อก่อน มีน้ำมูกก็สั่งแรงๆไป แต่ปรับโครงหน้าเค้าห้ามสั่งน้ำมูกแรงๆจ้าาา คุณหมอบอกว่ามันจะทำให้เกิดแรงดันข้างใน ;-;
ทำอะไรไม่ได้ ก็ล้างจมูกวนไป เผื่อจะหายใจคล่องขึ้นบ้าง
วันที่3 หลังผ่าตัด
วันนี้ที่รอคอย ตื่นเช้ามาเวฟข้าวต้มจ้าาาา ฉันจะไม่ทนกินนมอีกต่อปัยยยยย
พึ่งเข้าใจฟีลคำว่านอนหยอดน้ำข้าวต้มเป็นยังไง คือมันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ใช้คำว่ากินไม่ได้อ่ะ ต้องใช้คำว่า”สูด”เข้าปากดีกว่า
หลังจากพยายามสูดข้าวต้มจนหมด เราก็ต้องไปบ้วนปากกันค่ะ เค้าบอกว่าถ้าเริ่มกินอะไรที่มีเศษๆ ก็ต้องบ้วนปากให้สะอาดขึ้น นี่ก็ลุ้นมาก จะรู้ได้ไงว่าบ้วนสะอาดละนิ… เลยหยิบคัตเติลบัตไปยืนหน้ากระจก ค่อยๆแหวกปากล่างดู อะโหหหห เออว่ะ มันมีอะไรติดจริง แบบพวกเศษๆข้าวอ่ะแก เขี่ยๆไปสิคะรออะไร ไม่ใช่ยังไง ชุ้นกลัวโดนพยาบาลดุว่าไม่ยอมบ้วนปากให้สะอาด
゚・✿.。.:* *.:。✿*゚
วันที่4 หลังผ่าตัด
วันนี้จ้าาาาา นอนทั้งวันจ้าาาา นอนได้นอนดี นอนเหมือนคนไม่เคยนอน! นอกจากที่ตื่นมากินข้าวต้ม+กินยา ก็คือนอน!!
เตือนไว้นะทุกคน ไม่อยากให้ทำแบบนี้ เพราะว่าพอตื่นมาอีกที หน้าบวมฉึ่งจ้าาาาา
จากที่อาการบวมดูทรงๆมาหลายวัน วันนี้คือบวมอืดอย่างเห็นได้ชัด
แถมใต้ตาคืออย่างเขียว ข้างปากก็เขียวจางๆ น้องผิดไปแร้วววววว
ท่องไว้นะคะ จงเดินและประคบเย็นเถิดจะเกิดผลค่ะ
゚・✿.。.:* *.:。✿*゚
วันที่5 หลังผ่าตัด
หลังจากหยุดงานมานานหลายวัน วันนี้ออกไปทำงานแล้วจ้า แบกหน้าหนักๆเขียวๆไปทำงานแบบโนเมคอัพ แต่ก่อนอื่น ตอนเช้าเรามีนัดไปแกะเฝือกจมูก วี๊ดดดด ลุ้น!!! คุณพยาบาลมือเบา ตอนแกะเฝือกเลยไม่เจ็บ แต่ตอนตัดไหมหน้าจมูก โอ๊ยแก มันเสียว ตัดไหมหนึ่งปมก็แปล๊บบบหนึ่งที แต่เราก็ผ่านมันมาได้~ กลับมาที่ทำงาน เพื่อนๆชมว่าจมูกสวย นี่ก็ปลื้มมมม **กราบอกหมอหนึ่งที**
และจะบอกว่าเตรียมอุปกรณ์มาพร้อมมาก น้ำยาบ้วนปากเอย ไอซ์แพคเอย คัตเติลบัทเอย พร้อมทำออฟฟิศให้เป็นบ้านค่าาา
ด้วยความรู้สึกผิดบาปจากเมื่อวาน วันนี้เลยเดินกลับบ้านประมาน20นาที มันมีความวิงๆเล็กน้อย แล้วก็ปลาบๆวาบๆตรงช่วงคาง
กลับบ้านมาก็ประคบเย็น ลองแปรงฟันเป็นครั้งแรก เอาแปรงหัวเล็ก(แปรงเด็ก)จุ่มน้ำยาบ้วนปากสีน้ำตาล (ยังมีไหมในปาก ห้ามใช้ยาสีฟันนะจ้ะเพิ่ลๆ) ก็อย่างที่คิดแปรงได้แค่ฟันข้างนอก ฮ่าๆๆๆ
วันที่6 หลังผ่าตัด
วันนี้ค่ะ….ล้างหน้าจริงจังเป็นครั้งแรก!! ที่ผ่านมาได้แต่เอาทิชชู่เปียกถูหน้าให้ผ่านไปวันๆ
ปกติเป็นคนล้างหน้าแรงมาก แนวถูๆปาดๆโฟมล้างหน้าให้มันเสร็จๆไป แต่วันนี้คือค่อยๆกวักน้ำ ลูบหน้าอย่างทะนุถนอมสุด ก็จะรู้สึกแปลกๆหน่อย เหมือนไม่ได้ล้างหน้าตัวเอง คางก็จะอูมๆอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เปิดสัมผัสใหม่ค่ะคุณพี่ ฮ่าๆ
เสร็จแล้วก็ต้องบำรุงกันหน่อยค่ะ หน้าแห้งแตกยับย่นเยี่ยงถุงก๊อบแก๊บโดนพับ… หยิบมาส์กใกล้มือมา ขอมาส์กซัก20นาที ให้คุณค่าทางจิตใจ
゚・✿.。.:* *.:。✿*゚
วันที่7 หลังผ่าตัด
วันนี้ตั้งใจจะแต่งหน้าเบาๆไปทำงาน ลงคูชั่นเป็นพิธี ปัดแก้ม ทาลิป เขียนคิ้ว ไรงี้โนะ
….
..
.
แกเอ๊ย พังตั้งแต่ทาคูชั่น คือแต่งหน้าไม่ติดเลยจร้าาาา หน้าชั้นแห้งแตกเหมือนผิวดินหน้าแล้ง
เกือบไม่ได้ออกจากบ้าน ลบหน้าใหม่ ฉีดๆๆๆมิสท์จนหน้าเปียกเหมือนคนเล่นสงกรานต์ อ่ะ เรามาลองโบ้ะกันอีกรอบ เดชะบุญ พอไปวัดไปวาได้ -/\-
วันนี้อยู่ออฟฟิศไม่ค่อยได้ประคบเย็น แต่ยังได้เดินเยอะหน่อย ถือว่าทดแทนกันได้
อาการชาปลาบๆก็มาเรื่อยๆ ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงหน้าแก้มซ้าย กับแถวๆฟันกรามทั้งสองข้าง วูบๆวาบๆและผ่านไป ไม่ได้ปวดหรือทำให้รำคาญจนต้องกินยาแก้ปวดจ้า
วันที่8หลังผ่าตัด
วันนี้มีนัดนวดหน้าครั้งแรก ที่ผ่านมาที่เราไม่ได้ล้างหน้า หน้าแห้งแตก เค้าก็ช่วยตรงนั้นให้ แต่เค้าบอกว่าถึงจะนวดวันนี้ไปแล้ว หน้าก็ยังเป็นขุยได้อีกนะ พยายามมาส์กหน้าทุกวันจะช่วยได้ นวดหน้าก็สบายดีค่า เย็นๆ~
เสร็จแล้วก็ไปทำลดบวมอย่างอื่นต่อ มันมีชื่อว่า”ตู้อบอ๊อกซิเจน” คุณพยาบาลบอกว่าช่วง5นาทีแรกจะหูอื้อหน่อยเหมือนเวลาเครื่องบินขึ้น ให้กลืนน้ำลายจะช่วยได้ พูดความจริงคือนี่แอบกลัว เพราะเป็นคนที่ปวดหูมากกกกเวลานั่งเครื่องบิน ต้องบีบจมูก อัดลมออกหู ให้หูแตกเปรี้ยะๆๆ
แต่ก็นะ ลองดู!
มันก็อื้อๆนิดนึง กลืนน้ำลายรัววววว ของเราคือหูอื้อประมาน10นาที เอามือถือเข้าไปเล่นได้ ก็เปิดยูทู้บดูฆ่าเวลา ฮ่าๆ แต่ไม่ได้เจ็บหรือปวดหูอะไรนะ ผ่านค่าาา
ต่อไปเป็น”เครื่องฉายแสงสมาร์ทลุค” เค้าบอกว่าช่วยลดช้ำได้
ตัวนี้ดีทำง่าย มันจะจ้าๆตาหน่อย นอนหลับตาเฉยๆ20นาที เสร็จแล้วจ้าาาา
วันนี้ได้ตัดไหมเพิ่มอีก1จุด คือไหมตรงไรผมนั่นเองงง นั่งนิ่งๆแป้บเดียว ตัดเสร็จแล้วจ้า ไม่เจ็บด้วย
พอตัดไหมตรงไรผมเสร็จ คุณพยาบาลก็ให้ผ้ารัดกระชับมาใช้
✿✿✿✿✿✿✿✿✿✿
วันที่9หลังผ่าตัด
วันนี้หยุดอยู่บ้านเฉยๆ วนเข้าลูปเดิมอีกแล้วจ่ะ กินข้าว->กินยา->เล่นมือถือ->นอน
กินข้าวต้มสำเร็จรูปมาสัปดาห์นึงละ เลยลองหาอย่างอื่นกินบ้าง ไปซื้อสลัดมันฝรั่ง ซุปสาหร่าย ซุปข้าวโพดมา เออนะ ลองกินอย่างอื่นมันก็อร่อยแบบนี้
มีข่าวดีคือ ตอนนี้อ้าปากได้กว้างขึ้น ใส่นิ้วได้1นิ้ว เราไม่ต้องสูดข้าวต้มอีกต่อไปค่ะ เพราะเรายัดช้อนเข้าปากได้แล้ว ปรบมืออออ