ในปัจจุบันการทำ ศัลยกรรมแก้จมูก ‘แบบปิด’ กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยจะทำการผ่าตัด ด้านใน รูจมูกทั้งสองข้าง แตกต่างจาก แบบเปิด ที่ต้องกรีดจากรูจมูกสองข้างผ่านเสากลางจมูก ทำให้ แบบปิด มีลักษณะพิเศษคือแทบจะไม่มีรอยแผลเป็น ยิ่งไปกว่านั้นแผลผ่าตัดยังมีขนาดเล็กกว่าการผ่าตัดแบบเปิด มีเลือดออกขณะผ่าตัดน้อย และมีอัตราเกิดอาการอักเสบหลังผ่าตัดต่ำ จึงถือว่าเป็นวิธีที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำศัลยกรรมแก้จมูก
![](https://static.wixstatic.com/media/2735db_d9a4efe7016849ebb5cbd813d6f4a26d~mv2.jpg/v1/fill/w_99,h_36,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/2735db_d9a4efe7016849ebb5cbd813d6f4a26d~mv2.jpg)
ผ่าตัดแบบปิด (ซ้าย) และ แบบเปิด (ขวา)
ภาพจากโรงพยาบาลศัลยกรรม jaessia
นอกจากนี้ การผ่าตัดเคสแก้จมูก แบบปิด ยังทำให้เนื้อเยื่อภายในถูกกระทบกระเทือนเพียงเล็กน้อย ส่วนอาการบวมและเวลาพักฟื้นนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละเคส เช่น กรณีจมูกเปลี่ยนรูปเนื่องจากผ่าตัดมากกว่า 2 ครั้ง, กรณีผ่าตัดแบบเปิดผิดพลาด ทำให้จมูกผิดรูป, จมูกผิดรูปเนื่องจากเกิดการอักเสบและพังผืด หรือกรณีซิลิโคนเบี้ยว เป็นต้น
ทางด้านศัลยแพทย์ คังชายอง โรงพยาบาลศัลยกรรมกลอรี่ (Glory Plastic Surgery) ได้เน้นย้ำว่า ‘ในการผ่าตัดแก้จมูก นอกจากจะต้องแก้ปัญหาจากอาการแทรกซ้อนแล้ว จะต้องดีไซน์รูปทรงจมูกให้สมดุลกับใบหน้าโดยรวมด้วย’ และ ‘หลังจากเข้าปรึกษา ควรเลือกโรงพยาบาลที่มีศัลยแพทย์มากประสบการณ์การผ่าตัด มีระบบการตรวจร่างกายอย่างละเอียด รวมถึงวิสัญญีแพทย์’
เนื้อหาและภาพประกอบจาก www.hemophilia.co.kr เรียบเรียงและแปลเนื้อหาโดย www.wonjungnim.com ติดตามข่าวสารด้านศัลยกรรมความงามประเทศเกาหลีใต้กับเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/wonjungnim Line @Wonjungnim
![](https://static.wixstatic.com/media/2735db_d776f61fba494ac894ef49dc20bda2da~mv2.png/v1/fill/w_66,h_21,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/2735db_d776f61fba494ac894ef49dc20bda2da~mv2.png)